ทำให้ทัศนคติของคุณเป็นพวกเดียวกับคุณ
1. ปลูกฝังทัศนคติที่ว่า “ฉันกระตือรือร้น” ผลตอบแทนมาเป็นสัดส่วน
- ศึกษาให้ลึกซึ้ง เมื่อคุณพบว่าคุณไม่ได้สนใจในบางสิ่งบางอย่าง
- เพิ่มชีวิตชีวาในทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุณ การยิ้มของคุณ การจับมือ
- การประกาศข่าวดี ไม่มีใครเคยประสบความสำเร็จในทางที่เป็นบวก
2. ปลูกฝังทัศนคติที่ว่า คุณเป็นคนสำคัญ และทุกคนจะทำให้คุณมากกว่าเมื่อคุณทำให้เขารู้สึกสำคัญ อย่าลืมทำสิ่งต่อไปนี้
- ในทุกโอกาสแสดงความสำนึกในบุญคุณเท่าที่ทำได้ และทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญ
- เรียกคนอื่นโดยเรียกชื่อเขา
3. ปลูกฝังทัศนคติที่ว่า บริการอยู่เหนือสิ่งอื่นใด และดูเงินที่จะตามมาเอง
คิดให้ถูกต้องต่อคนอื่น
1. ทำให้ตัวเองเบาลงในการที่จะยก ฝึกเป็นคนที่น่านิยมชมชอบ ฝึกเป็นคนประเภทที่คนทั่วไปชอบ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เขาสนับสนุนคุณและเติมเชื้อเพลิง
2. เป็นผู้ริเริ่มในการสร้างความเป็นเพื่อน แนะนำตนเองกับคนอื่นในทุกโอกาสที่ทำได้ ให้แน่ใจว่าคุณได้ชื่อเรียกที่ถูกต้องของคนอื่น และให้แน่ใจเท่าๆ กันว่าเขาได้ชื่อคุณเช่นเดียวกัน ส่งจดหมายส่วนตัวถึงเพื่อนใหม่ของคุณถ้าคุณอยากรู้จักเขาให้มากขึ้น
3. ยอมรับความแตกต่างและข้อจำกัดในมนุษย์ อย่าคาดหวังความสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์จากผู้ใด อย่าลืมว่าคนอื่นมีสิทธิที่จะแตกต่าง และอย่าเป็นคนชอบแย้ง
4. เป็นช่องบวก สถานีจิตใจที่ดี ค้นหาคุณสมบัติที่จะชื่นชอบและยกย่อง
5. ฝึกเป็นคนเอื้ออารีในการสนทนา เป็นเหมือนคนที่ประสบความสำเร็จ
6. ฝึกเป็นคนเอื้อเฟื้อตลอดเวลา มันทำให้คนอื่นรู้สึกดีขึ้น และมันทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นด้วย
7. อย่าโทษคนอื่นเมื่อคุณพ่ายแพ้ จำไว้ว่าวิธีการที่คุณคิดเมื่อคุณประสบความพ่ายแพ้จะเป็นตัวที่กำหนดว่าอีกนานเท่าไหร่คุณถึงจะชนะ
1. เป็นคนกระตือรือร้น เป็นคนทำงาน เป็นนักทำ อย่าเอามือซุก???
2. อย่ารอจนกระทั่งเงื่อนไขต่างๆ สมบูรณ์แบบ มันไม่มีวันเกิดขึ้น เผชิญหน้ากับความยุ่งยากและอุปสรรคในอนาคต และแก้ปัญหาเมื่อเกิดขึ้น
3. จำไว้ว่า ลำพังความคิดเพียงอย่างเดียวไม่ทำให้เกิดความสำเร็จ
4. ใช้การลงมือปฏิบัติช่วยขจัดความกลัวและสร้างความมั่นใจ ทำในสิ่งที่กลัวแล้วความกลัวจะหายไป ลองทำแล้วคอยดู
5. ติดเครื่องความคิดของคุณด้วยมือ อย่ารอให้จิตใจผลักดันคุณให้ทำ
6. คิดในเกณฑ์ของคำว่าเดี๋ยวนี้ คำว่าพรุ่งนี้ สัปดาห์หน้า วันหลัง หรือ
7. นั่งลงและทำงาน อย่าเสียเวลาเตรียมตัวที่จะทำ เอาเวลานั้น
8. เป็นผู้ริเริ่ม เป็นนักรณรงค์ หยิบลูกบอลแล้วออกวิ่ง เป็นอาสาสมัคร
วิธีเปลี่ยนความพ่ายแพ้เป็นชัยชนะ
ความแตกต่างระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลวจะพบได้ในทัศนคติของคนคนหนึ่งต่อความพ่ายแพ้อุปสรรค ความท้อแท้ และความผิดหวังอื่นๆ มีป้ายบอกทาง 5 ป้ายที่จะช่วยให้คุณเปลี่ยนความพ่ายแพ้เป็นชัยชนะ นั่นคือ
1. ศึกษาความพ่ายแพ้เพื่อที่จะปูทางไปสู่ความสำเร็จ เมื่อคุณแพ้ควรเรียนรู้และเอาชนะในครั้งต่อไป
2. มีความกล้าหาญที่จะวิจารณ์ตัวเอง ค้นให้พบความผิดพลาดและจุดอ่อนของตัวเองแล้วทำการแก้ไข สิ่งนี้จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ
3. หยุดโทษโชคชะตา ตรวจสอบการพ่ายแพ้แต่ละครั้ง ค้นหาว่า
อะไรผิดพลาด จำไว้ว่าการโทษโชคชะตาไม่ทำให้ใครสามารถไปในที่ที่เขา
4. ผสมผสานความมุมานะกับการทดลอง ยึดติดกับเป้าหมาย แต่อย่าเอา
5. จำไว้ว่ามีด้านที่ดีอยู่ในทุกสถานการณ์ ค้นหาดู มองด้านที่ดีและหันหลังให้กับความท้อแท้หมดหวัง
ใช้เป้าหมายช่วยให้คุณโต
นำหลักการสร้างความสำเร็จมาใช้
1. กำหนดให้ชัดเจนว่าคุณต้องการไปทางไหน สร้างภาพพจน์ของตัว
2. เขียนแผน 10 ปีของคุณ ชีวิตของคุณเป็นสิ่งที่สำคัญเกินกว่าที่จะปล่อยให้เป็นไปตามดวง เขียนลงในกระดาษในสิ่งที่คุณต้องการทำให้สำเร็จในงานของคุณ ครอบครัว และชีวิตในสังคม
3. ยอมจำนนต่อความปรารถนาของคุณ ตั้งเป้าหมายเพื่อให้ได้รับพลังงาน ตั้งเป้าหมายเพื่อให้สิ่งต่าง ๆ ได้รับการปฏิบัติจนสำเร็จ ตั้งเป้าหมายพบความสนุกสนาน และเพลิดเพลินในการใช้ชีวิต
4. ปล่อยให้เป้าหมายหลักของคุณเป็นตัวชี้นำชีวิตโดยอัตโนมัติ เมื่อคุณปล่อยให้เป้าหมายครอบจิตใจของคุณ คุณจะพบว่าคุณตัดสินใจอย่างถูกต้องที่จะบรรลุเป้าหมายนั้นเสมอ
5. ทำงานสู่เป้าหมายทีละขั้น ถือว่าแต่ละก้าวที่คุณทำเป็นอีกก้าวหนึ่งสู่
6. สร้างเป้าหมาย 30 วัน ความพยายามแต่ละวันในที่สุดจะให้ผลที่ต้องการตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
7. เดินอ้อมในการย่างก้าวของคุณ ทางอ้อมมีความหมายเป็นเพียงอีกทางหนึ่ง มันไม่ควรจะหมายถึงการยอมจำนนในเป้าหมายของคุณ
8. ลงทุนในตนเอง ซื้อสิ่งที่สร้างพลังทางจิตใจและประสิทธิภาพ ลงทุนในการศึกษา ลงทุนในสิ่งที่สร้างความคิด
วิธีที่จะคิดเหมือนกับเป็นผู้นำ
การที่จะเป็นผู้นำที่มีประสิทธิผลมากขึ้น ใช้กฎการเป็นผู้นำ 4 ข้อต่อไปนี้
1. แลกเปลี่ยนจิตใจกับคนที่คุณต้องการมีอำนาจชักจูงจิตใจ มันเป็นการง่ายที่จะทำให้คนอื่นทำในสิ่งที่คุณต้องการให้เขาทำ ถ้าคุณจะมองสิ่งต่างๆ จากสายตาของเขา ถามตัวเองด้วยคำถามนี้ก่อนที่คุณจะลงมือทำ “ผมจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร ถ้าผมเป็นเขา และเขาเป็นผม?”
2. ประยุกต์ใช้กฎ “ความเป็นมนุษย์” ในการติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่น ถามว่า “อะไรคือวิธีที่มีความเป็นมนุษย์ในการจัดการกับปัญหานี้?” ในทุกๆ สิ่งที่คุณทำ แสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับคนเป็นอันดับแรก ปฏิบัติต่อคนในแบบที่คุณอยากได้รับการปฏิบัติ คุณจะได้รับผลตอบแทนไม่ช้าก็เร็ว
3. คิดอย่างก้าวหน้า เชื่อในความก้าวหน้าและผลักดันเพื่อความก้าวหน้า คิดปรับปรุงในทุกสิ่งที่คุณทำ คิดมาตรฐานสูงในทุกสิ่งที่คุณทำ ในระยะเวลาหนึ่งลูกน้องมีแนวโน้มที่จะเป็นรูปสำเนาของหัวหน้าของเขา ให้แน่ใจว่ารูปต้นแบบมีค่าควรแก่การสำเนา ตั้งเป็นนโยบายส่วนตัวในสิ่งต่อไปนี้ “ที่บ้าน ที่ทำงาน ในสังคม ถ้าเป็นเรื่องของความก้าวหน้า ผมเห็นด้วย”
4. หาเวลานอกพูดคุยกับตัวเอง และดึงพลังความคิดชั้นสุดยอดของคุณออกมาใช้ การตั้งใจอยู่อย่างโดดเดี่ยวให้ผลตอบแทนคุ้มค่า ใช้มันในการปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ของคุณออกมา ใช้มันในการค้นหาคำตอบให้แก่ปัญหาส่วนตัวและธุรกิจ ดังนั้นใช้เวลาบางส่วนสำหรับอยู่ตัวคนเดียวทุกวันเพียงเพื่อที่จะคิด ใช้เทคนิคการคิดที่ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลายใช้ นั่นคือพูดคุยกับตัวเอง
วิธีใช้ความมหัศจรรย์ของการคิดใหญ่ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่สุดของชีวิต
1. เมื่อคนเล็กพยายามกดคุณลงมา จงคิดใหญ่ แน่นอนมีคนบางคนต้องการที่จะทำให้คุณแพ้ ต้องการให้คุณประสบกับเคราะห์ร้าย ต้องการให้คุณ
- คุณชนะถ้าคุณปฏิเสธที่จะสู้กับคนคิดเล็กคิดน้อย การต่อสู้กับคนเล็ก
- คาดไว้ได้เลยว่าคุณจะต้องถูกแทงข้างหลัง นั่นเป็นการพิสูจน์ว่า
- เตือนตัวเองว่าคนลอบกัดมีความเจ็บป่วยทางจิตใจ จงเป็นคนใหญ่และ
- คิดให้ใหญ่พอที่จะปลอดภัยจากการโจมตีจากพวกคิดเล็กคิดน้อย
2. เมื่อเกิดความรู้สึกที่ว่า “ผมไม่มีในสิ่งที่จำเป็นต่อความสำเร็จ” คืบคลานเข้ามาหาคุณ จงคิดใหญ่ จำไว้ว่าถ้าคุณคิดว่าคุณอ่อนแอ คุณก็จะอ่อนแอ
- ทำให้ดูสำคัญ มันช่วยให้คุณคิดในสิ่งที่สำคัญ รูปร่างหน้าตาและ
- มุ่งเน้นในคุณสมบัติของคุณ สร้างวิธีการขายตัวเองให้กับตัวเองแล้ว
- วางคนอื่นให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม คนอื่นก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง เพราะฉะนั้นจะกลัวเขาทำไม
- คิดให้ใหญ่เพียงพอ เพื่อที่จะเห็นว่าคุณดีแค่ไหนจริงๆ
3. เมื่อการทะเลาะเบาะแว้งดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ จงคิดใหญ่ พยาบาท อาฆาต จะไม่ช่วยให้คุณไปถึงที่ที่คุณต้องการจะไป
- ถามตัวเองว่า “จริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่สำคัญแค่ไหนที่จะต้องถกเถียงกัน?”
- เตือนตัวเองว่า คุณไม่ได้อะไรเลยจากการทุ่มเถียง แต่คุณจะเสียอะไรบางสิ่งบางอย่างเสมอ
- คิดให้ใหญ่เพียงพอที่จะเห็นว่าการทะเลาะ การทุ่มเถียง และความพยาบาทอาฆาตจะไม่ช่วยคุณไปถึงที่ที่คุณต้องการจะไป
4. เมื่อคุณรู้สึกพ่ายแพ้ จงคิดใหญ่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงโดยปราศจากความลำบากและความผิดพลาด แต่มันเป็นไปได้ที่จะมีชีวิตอยู่โดยปราศจากการถูกทำให้พ่ายแพ้ นักคิดใหญ่มีปฏิกิริยา
- ถือว่าความผิดพลาดเป็นบทเรียน เรียนรู้จากมัน วิเคราะห์ดูความผิดพลาด และใช้มันในการส่งคุณให้ก้าวไปข้างหน้า กอบกู้สิ่งที่เหลืออยู่จากความผิดพลาดทุกครั้ง
- ผสมผสานความมุ่งมั่นกับการทดลอง ถอยหลังและเริ่มทำใหม่ด้วย
- คิดให้ใหญ่พอที่จะเห็นว่าความพ่ายแพ้เป็นสภาวะของจิตใจ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
5. เมื่ออารมณ์รักเริ่มจะเสื่อมคลาย จงคิดใหญ่ ความคิดที่จุกจิกและเป็นลบประเภท “เขาไม่ยุติธรรมกับฉัน ฉะนั้นฉันก็จะทำแบบเดียวกัน” เป็นความคิด
- มุ่งเน้นในคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดกับคนที่คุณต้องการให้รักคุณ
- ทำบางสิ่งบางอย่างเป็นพิเศษสำหรับคู่ของคุณ และทำบ่อยๆ คิดให้ใหญ่พอที่จะพบความสุขของชีวิตแต่งงาน
6. เมื่อคุณรู้สึกว่าความก้าวหน้าในงานกำลังช้าลง จงคิดใหญ่ ไม่ว่าคุณจะทำอย่างไร และไม่ว่าคุณจะมีอาชีพอะไร การเลื่อนตำแหน่งและเงินเดือนที่สูงขึ้นมาจากสิ่งเดียวเท่านั้น คือเพิ่มคุณภาพและปริมาณของผลผลิตของคุณ ทำสิ่งต่อไปนี้
คิดว่า “ผมสามารถทำให้ดีขึ้น” สิ่งที่ดีที่สุดไม่มี เพราะฉะนั้นมีช่องทางที่จะทำทุกสิ่งให้ดีขึ้น ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ถูกทำขึ้นอย่างสมบูรณ์ไม่มีที่ติ และเมื่อคุณคิดว่า วิธีที่จะทำให้ดีขึ้นก็จะปรากฏ จะปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ของคุณออกมา คิดให้ใหญ่พอที่จะเห็นว่าถ้าคุณถือบริการอยู่เหนือสิ่งอื่นใด เงินก็จะตามมาเอง